Unit 2 Different Lifestyle
Unit 3 School Life
Unit 4 Health and Illness
Unit 5 Holidays and Shopping
Unit 6 Asking for and Giving Directions
Unit 7 Working Day
Unit 8 Signs and Symbols
Unit 9 Emailing
Unit 10 Applying for a Job
ส่วนเสริม

ชุดฝึกบทสนทนา

ยอดวิว 0

ชุดทักษะการเรียนรู้

MEDIUM

แบบทดสอบก่อนเรียน

MEDIUM

แบบทดสอบหลังเรียน

สรุปเนื้อหา

Unit 1 Greeting and Introductions

การกล่าวทักทาย

     ในการทักทายแบบเป็นทางการ สามารถเพิ่ม “ชื่อสกุล” ต่อท้ายคำทักทายได้เพื่อแสดงความเคารพต่อคู่สนทนา เช่น Good morning, Ms. Smith. (มาจากชื่อเต็มว่า Ms. Jones Smith) แต่หากบุคคลที่ทักทายเป็นคนที่รู้จัก สามารถใช้ “ชื่อจริง” ต่อท้ายคำทักทายได้เลย เช่น “Good morning, Ms. Jones.”

     ในขณะที่พูดทักทายกัน ชาวอังกฤษและชาวอเมริกันจะมีการจับมือ (handshake) กันกับคู่สนทนา   การจับมือกันจะใช้ทักทายกับคนที่รู้จักกันเป็นครั้งแรก หรือใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ ดังนี้



เวลาจับมือ (handshaking) กันจะต้องจับมือกันให้กระชับ (firm) พร้อมกับสบตา (eye contact) กับคู่สนทนา

     หากการทักทายกับเพื่อนสนิท คนในครอบครัว หรือในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ ท่าทางการทักทายซึ่งกันและกันคือ การกอด (hugging) หรือ การจูบ (kissing) เป็นต้น


การแนะนำตัวแบบเป็นทางการ

     หลังจากการกล่าวทักทายกันมักจะมีการแนะนำตัวเองเมื่อเจอกันครั้งแรก การแนะนำตัวถือว่าเป็นการพูดคุยเล็กน้อย (small talk) ในงานสังสรรค์ทางสังคม หรืองานเลี้ยงต่าง ๆ การแนะนำตัวเองมี  2 วิธี คือ การแนะนำตัวเองแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

“How do you do?” ใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ หลักจากที่แนะนำตัวเองเป็นครั้งแรก และตอบกลับ “How do you do?” ด้วย “How do you do?”  ประโยค “How do you do?” ถือเป็นสำนวนสุภาพในการทักทายครั้งแรกของการรู้จักกัน

หัวข้อที่สามารถนำมาใช้ในการสนทนาหลังการทักทายมีหลายหัวข้อ ดังนี้

  การแนะนำสมาชิกในครอบครัว เช่น บทสนทนาเกี่ยวกับเครือญาติ โดยการแนะนำเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว มักจะเป็นการถามเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัว เช่น เรื่องการงานอาชีพ หรือที่พำนักอาศัย เป็นต้น


คำว่า siblings หมายถึง พี่น้องร่วมท้องเดียวกัน (มีพ่อแม่คนเดียวกัน) เป็นคำที่ไม่ระบุเพศ หรือความอาวุโสใด ๆ และเป็นคำที่เติม –s เสมอ หากเราจะพูดว่า ฉันมีพี่น้อง 5 คน สามารถพูดได้ว่า I have 5 siblings.

     เมื่อมีการถามเกี่ยวกับลักษณะครอบครัวเอเชีย ลักษณะเด่นของครอบครัวเอเชีย คือ เป็นครอบครัวใหญ่ หลายครอบครัวมีสมาชิกอาศัยอยู่รวมกันถึงสามรุ่นในบ้านเดียวกัน  ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน  ทำให้ครอบครัวหนึ่งอาจมีสมาชิกได้ถึง 7-10 คน และมักพบว่า สมาชิกสามรุ่นมักมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน 



 ประโยค Do you look like your dad or mom? ไม่ได้แปลว่า คุณชอบพ่อแม่ของคุณหรือเปล่า แต่หมายถึง คุณหน้าตาเหมือนพ่อแม่หรือเปล่า เพราะคำว่า look like เป็นคำคุณศัพท์ (adjective) แปลว่า ‘ดูเหมือน’

     และการถามเกี่ยวกับลักษณะครอบครัวยุโรป ลักษณะเด่นของครอบครัวยุโรป คือ การเลี้ยงลูกให้มีความเป็นผู้ใหญ่และพึ่งพาตนเองได้ตั้งแต่ยังเด็ก  เด็กนักเรียนในยุโรปจำนวนมากเมื่อเข้าสู่วัยมัธยมปลายมักจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกด้วยตัวเอง และทำงานนอกเวลาเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง ในการสนทนามักจะถามถึงวิถีการดำเนินชีวิตของเด็กวัยรุ่นที่แยกตัวออกมาจากครอบครัว



meet กับ meet with นั้นมีความหมายในเชิงลึกแตกต่างกัน meet somebody แปลว่า พบเจอโดยบังเอิญ หรือได้เจอกันเป็นครั้งแรก ในขณะที่ meet with แปลว่า พบปะ โดยมีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว

     อีกหัวข้อที่น่าสนใจ คือ การถามเกี่ยวกับภูมิลำเนา ส่วนใหญ่จะเป็นการถามเกี่ยวกับบ้านเกิดของคู่สนทนา ซึ่งคำตอบมักจะเป็นชื่อประเทศมากกว่าชื่อเมือง เว้นเสียแต่ว่าเมืองนั้น ๆ เป็นเมืองที่รู้จักดี จึงจะสามารถตอบเป็นชื่อเมืองได้  



คำถามที่ว่า Where do you live? เป็นคำถามที่ผู้พูดต้องการจะถามว่า  คุณอาศัยอยู่ที่ไหนในปัจจุบัน ไม่ใช่คำถามที่เกี่ยวข้องกับการถามภูมิลำเนา  ดังนั้นเมื่อเจอคำถามนี้ ควรตอบว่า I live in + (ชื่อประเทศ หรือ ชื่อเมืองที่กำลังอาศัยหรือกำลังทำงานอยู่)

สามารถดูตัวอย่างสำนวนและบทสนทนาเพิ่มเติมได้จากหนังสือ Real Life English (Conversational Practices)